อาหารหลายเมนูต้องใช้ความเผ็ดร้อนจาก “พริก” เป็นตัวช่วยชูโรงให้เมนูจานนั้นรสชาติอร่อย สีสันจัดจ้าน น่าทานยิ่งขึ้น แค่เติมพริกลงไปในเมนูอาหารง่ายๆ ทำเอง อย่างผัดพริกแกง พะแนงหมู แกงเขียวหวาน หรือต้มยำ ก็เปลี่ยนรสชาติเมนูจานได้ในทันที พริกบางชนิดมีดีกรีทั้งกลิ่นและความเผ็ดร้อน..เผ็ดจริงๆ เลยนะเม็ดเท่านี้!!
รอยไทยจะพาทุกคนมารู้จัก “พริก” กับแบบเจาะลึก พริกในไทยมีกี่ชนิด แล้วเม็ดไหนเผ็ดร้อนจนเด็ดโดนใจบ้าง ไปดูกันเลย
1.พริกขี้หนูสวน : เรียกว่า “พริกแกว” หรือ “พริกขี้หนู” เหตุผลที่เรียก พริกแกว เพราะไทยได้พันธุ์มาจากญวน โดยพริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก มีทั้งความเผ็ดและความหอม นิยมนำไปกินแนมกับของว่างอย่าง ช่อม่วง สาคูไส้หมู ปั้นขลิบไส้ปลา ฯลฯ นอกจากนี้ยังใช้โขลกน้ำพริกกะปิ ปรุงเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อยเด็ดอย่าบอกใครเชียว
2.พริกกะเหรี่ยง : การันตีเรื่องความเผ็ด! แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มที่ผลอ่อนสีขาว สุกเป็นสีส้ม แล้วเปลี่ยนเป็นสีแดง กลุ่มที่ 2 ผลอ่อนสีเขียวและผลแก่สีแดง ตัวจริงเรื่องความเผ็ดหอมต้องยกให้ “พริกกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี” เหมาะจะนำมาทำอาหารหลายชนิด โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยว เช่น ก๋วยเตี๋ยวสูตรพริกกะเหรี่ยง เป็นต้น
3.พริกจินดา ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา : พริกพื้นบ้านที่ปลูกมีอยู่กว่า 10 สายพันธุ์ ซึ่งพริกที่เด็ดที่สุดก็คือ พริกขี้หนูเม็ดใหญ่ สายพันธุ์ จินดาเกษตร มีความเผ็ด หอม มัน เป็นเอกลักษณ์
4. พริกบางช้าง : พริกสดที่มีโคนผลใหญ่ ปลายเรียว เนื้อหนา ไส้ใหญ่ เมล็ดน้อย มีกลิ่นเฉพาะตัว ผิวเรียบมัน ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ผลแก่สีแดงจัด รสไม่เผ็ดมาก
5. พริกพิโรธร้อยครกลพบุรี: ปี 2007 ถูกจัดอันดับเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก!! ตัวผลมีผิวเนื้อบาง ผลเรียวยาว มีเมล็ดมาก เผ็ดและหอม นิยมนำไปทำพริกแห้ง บางที่ก็นำไปทำพริกป่นจะให้กลิ่นหอมมาก
6.พริกหนุ่มดอยสะเก็ด : เป็นพริกกลุ่มพริกชี้ฟ้าที่เก็บในระยะสีเขียว หรือระยะที่ยังอ่อน มีผลยาวกว่า 25 cm. เนื้อหนา ไม่เผ็ดมาก และไม่มีกลิ่นฉุน ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “กลิ่นขิว” จึงเหมาะกับการนำไปทำน้ำพริกหนุ่ม
7. พริกป๊อบ : จุดเด่นคือ ปลายผลจะมน คนอีสานนิยมนำมาปรุงอาหาร โขลกเป็นพริกแกง ลอยเป็นลูกโดดในน้ำยาขนมจีนแบบอีสาน ทำแกงต่างๆ และกินสดแนมกับเนื้อสัตว์หมัก เช่น หม่ำ ไส้กรอกอีสาน เป็นต้น
8. พริกขาวชี : พริกชั้นดีจากภาคใต้ มีผลเรียว หงิกงอ สีสันคล้ายพริกป๊อบของอีสาน แตกต่างกันตรงที่ปลายผล โดยพริกป๊อบปลายจะมน ส่วนพริกชีปลายจะแหลม มีกลิ่นหอมฉุน รสเผ็ดจัด นิยมนำไปปรุงเพื่อให้ความเผ็ดในอาหารปักษ์ใต้ ใส่ปั๊บรับรองว่า..หรอยแรง!!
9. พริกตุ้มระยอง : มีผลกลมคล้ายมะเขือพวง ผลดิบสีเขียว ผลสุกสีแดง เป็นพริกพื้นบ้านของทางจังหวัดระยอง เนื้อสัมผัสมีความแน่นกรอบให้รสเผ็ดไม่มาก แต่กลิ่นหอม นิยมนำไปใส่ในแกงป่า แกงเขียวหวาน และผัดเผ็ดต่างๆ
ถึงต่างที่ต่างถิ่น แต่ยังคงกลิ่นอายของความเผ็ดร้อนที่ไม่เป็นสองรองใครเลย พริกแต่ละชนิดสามารถเพิ่มรสชาติและแต่งแต้มหน้าตาอาหารให้น่าทาน ทำให้เมนูอาหารต่างๆ เปลี่ยนสีสันได้ทันที อย่างเช่น แกงเขียวหวาน มีสีเขียวแตกต่างจากแกงอื่นๆ ก็เพราะใช้พริกชี้ฟ้าเขียวมาทำเท่านั้น
หากอยากทานเมนูอาหารง่ายๆ ทำเอง ไม่ต้องเสียเวลาตามหาพริกมาโขลกทำแกง ต้องนี่เลย! “น้ำแกงพร้อมปรุง” รอยไทย ทำจากพริกแกงหลายชนิด หอม กลมกล่อม อร่อยเด็ดไม่แพ้ใครแน่นอน >> คลิก <<
บทความที่เกี่ยวข้อง
ยกระดับความหอมให้เมนูขนมหวาน! ‘กะทิอบควันเทียน’ เพิ่มคุณค่าให้จานโปรดของคุณ
อาหารไทย, รอยไทย
เผยกลเม็ดแกงมัสมั่น เปลี่ยนเนื้อชิ้นหนาให้นุ่มละมุนลิ้น ตามตำราโบราณ
อาหารไทย, รอยไทย
เปิดภูมิปัญญาไทย บอกหมดทุกกลเม็ด ใช้กะทิอย่างไร? ให้คุ้มค่า ครบคุณประโยชน์
CHAOKOH , กะทิชาวเกาะ , กะทิชาวเกาะ UHT
แจกสูตรกินต้านไวรัส! รวมเมนูอาหารง่ายๆ ทำเอง เสริมภูมิคุ้มกันจากวัตถุดิบธรรมชาติ
อาหารไทย, รอยไทย
เปิดประวัติศาสตร์ตำราอาหาร! รู้หรือไม่..แกงพะแนงเนื้อมาจากไหน?
อาหารไทย, รอยไทย
หัวกะทิ VS หางกะทิ เปิดสุดยอดความลับ กะทิเหมือนกัน...มีประโยชน์ต่างกันอย่างไร?
CHAOKOH , กะทิชาวเกาะ , กะทิชาวเกาะ UHT
มือใหม่หัดเข้าครัว! สูตรแกงเขียวหวานสไตล์ฟิวชั่น อร่อยเซียนเหมือนเรียนมา
อาหารไทย, รอยไทย
5 ขนมหวานตำรับไทย ใช้ “กะทิอบควันเทียน” เติมเสน่ห์ เพิ่มความหอมมันมากกว่าเดิม!
CHAOKOH , กะทิชาวเกาะ , กะทิชาวเกาะ UHT
กะทิ “UHT” หรือ “พาสเจอร์ไรส์” เป็นวัตถุดิบเด็ด...คู่ครัวไทยยุคใหม่?
CHAOKOH , กะทิชาวเกาะ , กะทิชาวเกาะ UHT