ขอเอาใจคนรักแกงมัสมั่น เอกลักษณ์ของน้ำแกงอยู่ที่ความเข้มข้นกลมกล่อม ถูกใจใครหลายคน ดังที่กล่าวไว้ในกาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ “มัสมั่นแกงแก้วตา หอมยี่หร่ารสร้อนแรง ชายใดได้กลืนแกง แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา”  

รอยไทย มีกลเม็ดเคล็ด(ไม่)ลับ ที่จะทำให้แกงมัสมั่นของคุณอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ใช่การเพิ่มวัตถุดิบ หรือเติมเครื่องปรุงเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่เป็นวิธีการทำให้เนื้อสัตว์เปื่อยนุ่มละลายในปาก แถมเข้ากันได้ดีกับน้ำแกงมัสมั่น ซึ่งส่วนใหญ่เนื้อสัตว์ที่นิยมนำมาทำแกงมัสมั่นจะเป็นเนื้อวัว หรือเนื้อไก่ หากไม่ทานเนื้อก็ใช้ซี่โครงหมูแทนได้เลย

เคล็ดลับสำหรับการเลือกเนื้อวัว คือ ควรเลือกเนื้อที่เหนียว หากใช้เนื้อส่วนที่นุ่มอยู่แล้ว เวลานำมาเคี่ยวแกงมัสมั่นจะเละได้ง่าย รวมถึงส่วนของเนื้อเยื่อ (ผังผืด) จะช่วยเก็บรสชาติน้ำแกงมัสมั่นไว้ภายใน ทำให้เมื่อรับประทานเนื้อจะมีรสชาติดี 

ขั้นตอนต่อไปนำเนื้อวัวที่ได้มาโรยเกลือบนเนื้อวัวแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดทันที จากนั้นนำเนื้อวัวไปไปเคี่ยวกับหางกะทิบนไฟอ่อนประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนใส่ในแกงมัสมั่น อาจเพิ่มข่า ตะไคร้ลงไปขณะเคี่ยวด้วยก็ได้ วิธีนี้ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อ แถมยังทวีความนุ่มของเนื้อได้ยอดเยี่ยมเลย 

เมื่อเนื้อนุ่มได้ที่ก็พร้อมนำไปทำเมนูอาหารง่ายๆ ทำเอง อย่างเมนูแกงมัสมั่น พอใส่กะทิ พริกแกง เครื่องเทศ และปรุงแล้วก็นำเนื้อวัวใส่หม้อ เคี่ยวด้วยไฟอ่อนนาน 1.30 – 2 ชั่วโมง เนื้อจะนุ่มกำลังดี ถ้าอยากให้แกงมัสมั่นเข้มข้นขึ้น ก็ตั้งไฟอ่อนต่ออีก 3-5 ชั่วโมง น้ำแกงจะซึมเข้าถึงเนื้อใน แกงมัสมั่นเป็นแกงที่เก็บค้างคืนจะมีรสชาติที่อร่อยขึ้น รับรองว่า แกงมัสมั่นหม้อนี้รสชาติกลมกล่อม เนื้อนุ่มละมุนลิ้นไร้กลิ่นคาว รอนานหน่อย แต่อร่อยเกินคุ้ม! 

แต่ถ้าไม่มีเวลาเคี่ยวนานขนาดนั้น ขอแนะนำ! “น้ำแกงมัสมั่นพร้อมปรุง” ตรา รอยไทย กลมกล่อมถึงเครื่องแกงไทย ช่วยคุณประหยัดเวลาไปได้เยอะ ต้องลอง!! (คลิก)