ที่สุดของคุณค่าจากข้าว ต้องยกให้ “น้ำนมข้าว” ที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยกว่าจะเป็นข้าวแต่ละเมล็ดที่เรากินเป็นอาหารหลักนั้น ต้องผ่านกรรมวิธีหลายขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การคัดเมล็ดพันธุ์ สู่ระยะของการเจริญเติบโต ซึ่งเมล็ดข้าวอ่อนในระยะแรกมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นสารฟีนอลิก ฟลาโวนอยด์ กรดฟูรูลิก เป็นต้น  

โดยระยะการเจริญของเมล็ดข้าว มีเวลาประมาณ 25-30 วันหลังออกดอก แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 

ระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มต้มหลังออกดอกประมาณ 7-10 วัน จะมีของเหลวสีขาวคล้ายน้ำนมข้าวออกมา เปลือกสีเขียว เราเรียกว่า น้ำนมข้าวยาคู (Young Rice Milk) 
ระยะที่ 2 เมื่อมีอายุระหว่าง 13-19 วันหลังออกดอก เรียกว่า ข้าวระยะข้าวเม่า โดยของเหลวเริ่มจับตัวเป็นก้อนนุ่มๆ มีสีเขียวอ่อน นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ กินเสริมสำหรับผู้ป่วย เพราะช่วยบำรุงร่างกาย แก้อาการอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี 
ระยะที่ 3 คือระยะสุดท้ายนับจากหลังออกดอก 21 วัน เมล็ดเริ่มแน่นขึ้น แล้วเปลี่ยนเป็นแข็งเจริญเติบโตเต็มที่
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย “ข้าว” ก็ยังเป็นอาหารหลักที่คนไทยขาดไม่ได้ สามารถนำมาแปรรูปเป็น “นมข้าว” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่แพ้นมวัว ดื่มทดแทนนมวัวแต่คุณประโยชน์ก็ไม่ด้อยกว่ากันเลย โดยน้ำนมข้าวจะมีคาร์โบไฮเดรตสูงกว่า และมีโปรตีนต่ำกว่านมวัว แถมยังช่วยย่อยและดูดซึมได้ง่าย ไม่มีคลอเรสเตอรอล เพราะไม่ได้มีส่วนประกอบของไขมันจากสัตว์ เต็มไปด้วยส่วนประกอบของไขมันพืช แน่นอนว่า..เป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้น้ำนมข้าวยังช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ดีกว่าข้าวทั่วไปอีกด้วย

อยากมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว เลือกเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ “V-Fit น้ำนมข้าวกล้องงอก”  ที่ผลิตจากข้าวกล้องงอกพันธุ์ดี ผ่านกรรมวิธีที่ทันสมัย จนได้เป็นน้ำนมข้าวที่สุดของความลับจากธรรมชาติ เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน   >คลิก<